วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

บาร์ใหม่@ม.เกษตร

บาร์ใหม่ คืออะไร?


ดูจากชื่อแล้วหลายๆคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นพวกผับบาร์ที่เปิดในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีบาร์ใหม่กว่าด้วย แสดงว่าต้องมีหลายที่แน่ๆ ได้ยืนชื่อก็รู้สึกอยากลองมาแล้วใช่มั้ยล่ะครับ



แต่...แล้วทำไมถึงตั้งในม.เกษตรได้ล่ะ???



จริงๆแล้ว บาร์ใหม่ คือ โรงอาหารกลาง1 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณถนนจงรักปรีชานนท์ ใกล้ ๆ กับบริเวณสระว่ายน้ำจุฬาภรณ์ นอกจากนี้ยังมีบาร์ใหม่กว่า เป็นโรงอาหารกลาง2 อยู่ที่ถนนไพฑูรย์อิงคสุวรรณ เยื้องอาคารสารนิเทศ 50 ปี แต่คนจะน้อยกว่าบาร์ใหม่เพราะอยู่ไกล ในที่นี้เราจะมาพูดถึงโรงอาหารกลางหลักของเรานั่นก็คือบาร์ใหม่นั่นเอง


บาร์ใหม่หรือโรงอาหารกลาง ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นที่ๆสกปรกมาก บางคนถึงกับบอกว่าบาร์ใหม่เป็นเหมือนตลาดสดเลยทีเดียว เพราะร้านค้าแต่ละร้านสกปรกมาก ที่นั่งก็ไม่สะอาด ต้องแย่งที่นั่งที่ใกล้พัดลม มีสัตว์ต่างๆเดินเพล่นพล่านเต็มไปหมด แต่ในปัจจุบันบาร์ใหม่ได้มีการปรับปรุงจนกลายเป็นโรงอาหารที่มีความสะอาด ร้านแต่ละร้านดูมีระเบียบและสะอาดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนทีวีใหม่ เป็นทีวีแบบLCDs และที่สำคัญมีเครื่องปรับอากาศติดอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องมาแย่งพัดลมกันเวลานั่งอีกต่อไป ทำให้มีนิสิตมารับประทานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บาร์ใหม่ถือได้ว่าเป็นที่ๆผู้ชายหลายคนมักจะมาส่องสาวกัน เรียกได้ว่า อิ่มทั้งกายและใจ เลยทีเดียว



และนี่คือภาพการเปรียบเทียบกันระหว่างบาร์ใหม่ในอดีตกับปัจจุบัน


อดีต
















ปัจจุบัน





















วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

มารู้จักกับ...รถตะลัย


สำหรับคนที่ไม่เคยเข้ามาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อาจจะยังไม่ทราบว่า "ตะลัย" คืออะไร? มีหน้าตาอย่างไร? บทความนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยไขข้อสงสัยให้กับทุกๆคน



ตะลัย มาจากชื่อเต็มๆว่า "รถตระเวณทั่วมหาวิทยาลัย หรือ รถตะลุยมหาวิทยาลัย" โดยเอาตัวหน้าคือตะรวมกับตัวหลังคือลัย มารวมกันเป็นชื่อรถ ซึ่งเป็นรถที่นิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปใช้โดยสารภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


รถตะลัยมีด้วยกันทั้งหมด 3 สาย และมีสายเสริมพิเศษเพื่อช่วยให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นในช่วงโมงเร่งด่วน เส้นทางเดินรถของรถตะลัยทุกสายจะเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ศาลาหกเหลี่ยม เส้นทางการเดินรถตะลัยแต่ละสายมีลักษณะการเดินรถที่แตกต่างกันตามแผนผังนี้







การเดินทางด้วยรถตะลัยในอดีตจะต้องจ่ายค่าโดยสารครั้งละ 2 บาท แต่ในปัจจุบันไม่มีการเสียค่าโดยสาร เพื่อช่วยส่งเสริมให้นิสิตขึ้นรถตะลัยมากขึ้น ซึ่งนับว่าได้ผลดีทีเดียว เพราะเราจะสังเกตได้ว่ารถตะลัยแทบทุกคันจะเต็มไปด้วยผู้โดยสาร โดยเฉพาะช่วงเช้าถึงช่วงบ่ายแก่ๆ ซึ่งเป็นช่วงนิสิตมีเวลาเรียนพอดี ป้ายรถตะลัยบริเวณศาลาหกเหลี่ยมจะมีคนต่อคิวเป็นจำนวนมากจนทำให้คนที่รีบจริงๆต้องหันไปใช้บริการรถมอเตอร์ไซด์แทน




สำหรับการลงรถตะลัยนั้น จะต้องลงตามป้ายที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น ป้ายรถตะลัยจะมีลักษณะดังรูปข้างล่างนี้




ในปัจจุบันมีรถตะลัยหลายรุ่นเพื่อให้ไม่รู้สึกเบื่อกับรถรุ่นเก่า ต่อไปนี้จะพาไปดูรถตะลัยรุ่นต่างๆ โดยจะเรียงลำดับตามความใหม่จากรุ่นเก่าไปรุ่นใหม่


  1. รถตะลัยคลาสสิค - เป็นแบบดั้งเดิมที่มีมาช้านาน ปัจจุบันยังคงมีอยู่เป็นรถพัดลมร้อน ซึ่งไม่เคยเปิดยกเว้นตัวที่มันอยู่ตรงคนขับ อากาศไม่ค่อยถ่ายเท นั่งได้ประมาณ 20 คน แต่ยืนได้ไม่จำกัด แล้วแต่ความสามารถและน้ำใจของผู้ใช้ว่าจะยืนชิดในหรือไม่ ห้อยโหนกันได้อย่างเต็มที่ ตามยถากรรม เวลาเข้าโค้งจะตื่นเต้นแล้วต้องใช้ Skill มากเป็นพิเศษ



  2. รถตะลัยราง - เป็นรถรางคล้าย ๆ กันรถรางกทม.เป็นที่นั่งอย่างเดียวห้ามยืน นั่งได้ประมาณ 30 คนเลยทีเดียว เป็นรถที่อากาศถ่ายเทดีมาก แต่ไม่สามารถกันได้ทั้งแดดและฝน



  3. รถตะลัยปรับอากาศ - นั่งได้ 15 คน ยืนได้ไม่จำกัด ถ้าไม่มีผู้โดยสารรถรุ่นนี้จะเย็นสบาย แต่ถ้าเมื่อใดคนเต็มรถ จะเป็นรถที่ร้อนมาก นอกจากนี้ยังเป็นรถที่ไม่สามารถระบายอากาศได้ เมื่อมีกลิ่นใดๆเกิดขึ้น ก็จะสร้างปัญหาให้กับผู้โดยสารทั้งคัน



  4. รถตะลัยไฟฟ้า - นั่งได้ 6 คน และต้องเป็นนิสิตที่มีขนาดไม่เกิน size L อย่างเด็ดขาด หากเกินกว่านั้นจะกินที่ชาวบ้านชาวช่องเขา เวลานั่งต้องนั่งหลังตรงเพราะพื้นที่มีจำกัด เรื่องอากาศถ่ายเทไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องฝนตกก็ไม่ต้องห่วง เปียกกันทั่วหน้าเช่นกัน รถคันนี้มีจุดเด่นตรงที่ความเร็วครับ สามารถทำความเร็วได้เท่าความเร็วจักรยาน เผลอ ๆ จักรยานเร็วกว่าด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นรถที่ชิวที่สุดในม.เกษตร







และนี่ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของรถตะลัยนะครับ